top of page
Search
  • Writer's picturePimchanok Sripraphan

Phuket Sandbox 2021 | EP.1 เหินเวหา มาแอ่วภูเก็ต

สวัสดีชาวโลก :)

เนื่องจากว่า อยู่ๆก็มีเจ้าเชื้อโรคตัวนึง คิดอยากจะเดินทางรอบโลก เลยทำให้มนุษย์อ่อนแออย่างเราๆต้องหยุดชะงัก ไม่ได้ออกไปไหนเป็นปีๆ จนกระทั่งพวกเราทนไม่ไหว ต้อง fight back ด้วยวัคซีน!


ช่วงชีวิตของเราตอนนี้คือ based อยู่ที่ Cologne, Germany ... ไม่ได้กลับบ้านมาตั้งแต่ปี 2019 ... พอได้ยินว่ามี Project Sandbox ที่ภูเก็ต โดยคนที่ฉีดวัคครบ 2 เข็มแล้วไม่ต้องกักตัวอยู่แค่ในห้องโรงแรม แต่สามารถออกไปไหนก็ได้ในเขตภูเก็ต ... เราเองก็ homesick ไม่ไหวแล้ว ฉีดวัคซีนครบ แล้วก็ป้ะ!!!

ในที่สุดก็ได้นั่งเครื่องบินแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย

รอบนี้เราบินมาจาก Frankfurt, Germany วันพฤหัสที่ 2 กันยา มาถึงภูเก็ตเช้าวันศุกร์ที่ 3 มาพร้อมกับเพื่อนสนิท โจนาธาน เป็นคนเยอรมันจากเมืองเล็กๆที่สวยมากกกก ชื่อว่า Dresden เรากับโจเจอกันที่เชียงใหม่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ก่อนที่เราจะบินมาเยอรมันเพื่อที่จะมาต่อโท เรากับโจไม่เคยคิดเลยว่าจะยังเป็นเพื่อนกันจนมาถึงทุกวันนี้ เพราะถึงแม้ว่าจะอยู่เยอรมันเหมือนกัน แต่ก็อยู่กันคนละฟากของประเทศอยู่ดี แต่สุดท้ายก็ยังเป็นเพื่อนกันแถมสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆด้วย


ก่อนที่จะบินพวกเราต้องเตรียมเอกสารกันเยอะมว๊ากกกกก ละคือดันซื้อตั๋วนำก่อนเลยค่า มีเวลาแค่ 2 อาทิตย์ในการเดินเรื่องเอกสารทั้งหมดก่อนบิน ละคือนี่ต้องทำงานด้วย เครียดสุด อย่าหาทำ!!! ใครจะมาจากต่างประเทศ แนะนำให้เผื่อเวลาเตรียมตัวไว้เลย 1 เดือน เราโชคดีที่เจ้าโจอยากให้เราไปทริปนี้ด้วยแบบเว่อวัง นางเลยโทรตามจิกเอกสารให้เราละบอกให้เราโฟกัสกับงานไป Vielen Dank naaa ❤️

✉️ เอกสารที่พวกเราต้องเตรียมตัวก็คือ

  • ใบ certificate ว่าได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว (เจ้าสมุดเล่มเหลือง และ ใบ cer ที่ได้มาจากเภสัช)

  • ประกันสุขภาพระหว่างเดินทางที่ครอบคลุม covid-19 (กว่าจะได้เจ้าใบนี้มา คือรออย่างสาหัส) - 1.5 week

  • ตั๋วเครื่องบิน

  • ใบ confirm การจองโรงแรมที่อยู่ให้โปรแกรม SHABA Plus (SHA+)

  • ใบเสร็จว่าเราจ่ายค่า PCR test 3 ครั้งที่ภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว

  • ใบลงทะเบียน COE (Certificate of Entry) ที่ต้องให้ approve โดยสถานทูตไทยที่เยอรมัน - เกือบๆ 1 week

ใครอยากอ่าน How-to แบบละเอียด เราเขียนเป็นฉบับภาษาอังกฤษไว้ให้นะคะ: https://drive.google.com/file/d/1kuL9FmrsO8sAZhz71UI0XV9ROQg001Gj/view?usp=sharing


Flight ของเราเป็นสายการบิน Etihad เครื่องออกวัน พฤ 02.09 เวลา 13:50 ตัวเราเองเริ่ม journey จากการทำงานเสร็จวันพุธแล้วนั่งรถไฟ ICE จาก Cologne ไปนอนกับเพื่อน 1 คืนที่ Frankfurt เพราะกันเหนียวเผื่อรถไฟ delay บ้าง อะไรบ้าง ... แล้วที่กันเหนียวเอาไว้มันก็ถูกจริงๆ เพราะอยู่ๆคนทำงาน Deutsche Bahn ก็จะมาประท้วงไม่ยอมทำงานในวันที่เราจะบินซะงั้น รถไฟของวันที่ 02.09 เลยโดนยกเลิกหมดเลย เจ้าโจนาธานเลยต้องรีบแพคของ รีบซื้อตั๋วรถไฟใหม่ บึ่งมาจาก Dresden มานอนกับเพื่อนเราด้วยที่ Frankfurt ... วันที่จะบินเราเลยต้องเรียก Uber จากตัวเมือง Frankfurt ไปสนามบิน แล้วการเดินทางของพวกเราก็เริ่มต้นขึ้น!!! :D


ความดำของ Passport cover นี้ บ่งบอกว่าผ่านอะไรกันมามากมายและนานแค่ไหน 55555

ยื่นเอกสาร Check-in ผ่าน security และ ตม คนออกประเทศ ซึ่งเกือบไม่ผ่านเพราะวีซ่าเยอรมันเราหมดอายุ กำลังรออันใหม่ แต่ดันแจ๋ไปเที่ยวซะละ 5555 ตม สุดหล่อถามใหญ่ อยู่ที่ไหน ทำงานที่ไหน อะไรยังไง ถามอยู่นานสองนาน จนเจ้าโจเป็นห่วง text มาถามว่าโอเคมั๊ย ส่วนเราใจก็เต้นตุบๆ ไม่คิดว่าขาออกจะยากเย็น คิดว่ามีแค่ passport ไทยก็พอแล้ว ดีที่เตรียมเอกสารหลักฐานที่อยู่ ที่ทำงานเอาไว้หมดแล้ว สุดท้ายกลายเป็นว่าคุณ ตม สุดหล่อเป็นคนจาก Cologne เหมือนกัน เลยใจดีให้ผ่าน พร้อมกับกำชับว่า จะกลับเข้ามาเยอรมันต้องมีวีซ่าใหม่นะครับ


ชั้นจะบิน บิน ไปปปปป ลั้ล ลั้ล ลาาาาา – นั่งเครื่องบินในรอบ 2 ปี ตื่นเต้นสุดดดด

จากนั้นพวกเราก็บินจาก Frankfurt มา Abu Dhabi เครื่องโล่งพอประมาณ เรากับโจเหมาที่นั่งทั้งแถว เหยียดขากันตามสบาย ลงเครื่องผ่าน security อีกรอบก็ชิวๆ แถวไม่ยาว มีเวลาเหลือไปนั่งกินเบอร์เกอร์ก่อนเข้าเกต พอถึงเวลาก็ไปรอขึ้นเครื่อง ก็มีการเช็คเอกสารทุกอย่างอีกรอบ ซึ่งข้อมูลของ flight ที่จะเข้าไทยต้องตรงตามในเอกสารที่เราเตรียมตัวมาทุกอย่าง แต่ปรากฏว่ามีคนที่จะเดินทางไปภูเก็ตเหมือนกันที่บินมาจากอังกฤษดันโดน flight ยกเลิก เลยต้องเปลี่ยนมาบินอีกลำ ข้อมูลในเอกสารก็เลยคลาดเคลื่อนไปอีก พนักงานก็ต้องวุ่นโทรหา โทรคุยอยู่ประมาณเกือบๆชั่วโมง ละคือตอนนั้นประมาณตี 1 ที่ Abu Dhabi เรากะโจคือสงสารทั้งผู้โดยสารที่โดนยกเลิก flight และ พนักงานที่ต้องมาทำงานอะไรแบบนี้ตอนตี 1 แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ sort out ทุกคนได้ขึ้นเครื่อง เย้เย้


ความโล่งของเครื่อง

ความอลหม่านของคน

และแล้วพวกเราก็ได้มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต! ความรู้สึกตอนนั้นคือดีใจไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองสุดๆ เพราะตั้งแต่เริ่มแพลนทริปนี้ ซื้อตั๋ว จองโรงแรม คือรู้สึกว่ามันเป็นแค่ abstract idea เหมือนเป็นแค่การคุยลอยๆ เรากับโจชอบคุยเรื่องวางแผนเที่ยวด้วยกัน แต่ความจริงแล้วเป็นเพื่อนกันมา 5 ปี ไม่เคยเที่ยวด้วยกันเลย 55555 เลยรู้สึกว่ามันยังไม่ real จนกระทั่งมาถึงภูเก็ต เดินลงเครื่องมารับลมร้อนๆผ่านหน้า ถึงจะได้รู้สึกว่า โอเค นี่มาถึงไทยจริงๆละ :D


ลงเครื่องมาปุ๊ปก็มี staff ใส่ชุดหมี มาอันเชิญให้ไปนั่งเรียงแถวเตรียมตรวจเอกสาร ความจริงแล้วในข้อมูลการเตรียมตัวเค้าบอกให้โหลดแอป ThailandPlus ซึ่งเราโหลดพร้อมไว้เรียบร้อยแล้วรอ scan แต่กลับกลายเป็นว่าเค้าเปลี่ยนมาใช้แอปหมอชนะซะงั้น แต่ดีที่สนามบินมี wifi เลยทำให้ตรงนี้ไม่เป็นเรื่องยาก เตรียมเอกสารและ scan app เสร็จ ก็ผ่านเข้าไปด่านที่ 2 คือการเช็คเอกสารที่เตรียมมาอย่างละเอียด ไม่มีอะไรมากเลย ผ่านฉลุย ด่านต่อไปคือ ตม ตรวจคนเข้าเมือง ก็ง่ายและรวดเร็วเช่นกัน ออกมาเสร็จก็มารับกระเป๋า ด้วยความที่คนโล่งมากกกกกก เราเลยไปถึงแล้วเห็นกระเป๋าเราเลย เสร็จปุ๊ปก่อนที่จะไปถึงด่านสุดท้าย เรากับโจเตรียมพร้อมโดยการไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า กดเงินสด และเดินหน้าออกจากตัวอาคาร เพื่อที่จะได้มาเจอด่านบอสของเกมนี้ ซึ่งก็คืออออ การตรวจ PCR test! ปกติเวลาตรวจ covid ที่เยอรมัน เค้าจะแหย่เข้าไปที่ลำคอและโพรงจมูก หรือไม่ก็อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วก็แค่จิ้มๆให้มันเสร็จๆจบๆ แค่นั้นน้ำตาก็จะไหลแล้ว แต่ที่สนามบินภูเก็ตนี่คือเป็น worst case scenario - แหย่ 2 รูจมูกเลยจ้าาาาา แหย่อย่างเดียวไม่พอ คือแช่อยู่อย่างนาน ละปั่นๆ โอ้โห เรานี่น้ำตาเล็ดแล้วเล็ดอีก traumatized ไปเลย 55555 แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ ทาง test center เค้าจะส่งผลตรวจไปให้เราทาง email และส่งไปให้ทางโรงแรมด้วย ปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1 วันในการ process ผลตรวจ แต่ด้วยความที่เรามา flight เช้า เราเลยได้ผลตรวจในตอนเย็นของวันเดียวกันเลย เพราะฉะนั้นเราแนะนำให้หา flight มาลงภูเก็ตตอนเช้านะคะ :)


นั่งรอตรวจเอกสารต่างๆ และ Scan app หมอชนะ

หลังจากนั้นเราก็นั่ง taxi จากสนามบินไปโรงแรม โรงแรมที่เราพักชื่อว่า Burasari อยู่แถวหาดป่าตอง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินประมาน 1 ชั่วโมง ... ก่อนมาทริปนี้ เราได้มีโอกาสรู้จักลินดา เพื่อนคนไทยที่เพิ่งจะได้รู้จักกันที่ Cologne บังเอิญว่าลินดาเป็นคนภูเก็ต เราเลยโชคดีได้คำแนะนำที่เที่ยวที่กินจากคนท้องถิ่น รวมถึงค่า taxi ที่สมเหตุสมผลด้วย ลินดาบอกว่าปกติแล้วค่า taxi จากสนามบินไปป่าตองหรือตัวเมืองปกติจะอยู่ที่ประมาณ 700-800 บาท ไม่ควรเกิน 1,000 แต่อาจจะเป็นเพราะช่วงโควิดเราเลยได้มาในราคา 640 บาท พร้อมกับข้อเสนอจาก taxi ว่าถ้าขากลับโทรมาจองก่อน เราจะได้ในราคา 500 เท่านั้น แจ่มเลย :D


พอมาถึงโรงแรมเวลาประมาณ บ่ายโมงครึ่ง ก็เจอพนักงานหน้าฟร้อนท์ให้การต้อนรับอย่างดี รู้สึกเขินหน่อยๆที่มีคนเรียกเราว่า “คุณพิมพ์ชนก” ... ต้องทำใจว่าเราเองก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่น้องเตย เด็กน้อยกะโปโลอีกต่อไปแล้ว 55555

Burasari Phuket – บริเวณ Lobby และสระว่ายน้ำ

เช็ค Passport เอกสารการจองโรงแรม และ ใบเสร็จ PCR test อีกรอบ กรอกแบบฟอร์ม เซ็นตรงนั้นตรงนี้เสร็จก็ได้ key card มา 2 ใบ เรากับโจตัดสินใจอยู่ห้องเดียวกัน แต่แยกเตียง เพื่อที่จะได้ประหยัดและอยู่โรงแรมที่ facility ดีๆหน่อย ซึ่งพวกเรา happy กับโรงแรมนี้มากกกก ไม่ได้หรูหราอะไรมากมายแต่มีครบครันทั้ง ร้านอาหารบรรยากาสดีๆ (เราจองห้องแบบรวมบุฟเฟต์อาหารเช้าด้วย คุ้มสุดดดด) มีสระว่ายน้ำ 2 สระ มีนวดและสปา แถมอยู่ๆก็ได้อัพเกรดห้องด้วย Location อยู่ใกล้ทะเล  อยู่ตอนกลางของภูเก็ต จะเข้าเมือง ขึ้นเหนือ ลงใต้ ก็ง่าย ขับรถไปไม่นาน


พอ check-in เสร็จ ก็ขึ้นไปอยู่ที่ห้อง ยังออกไปแรดไม่ได้เพราะต้องรอผล PCR จากตอนเช้า ระหว่างรอเราก็เลยสั่งข้าวจาก GrabFood มากิน เพราะสู้ราคาต้มข่าไก่ที่โรงแรมไม่ไหว อาหารเร็วมากกกก ประมาณ 20 นาที เพราะว่ายังรอผลอยู่ เลยยังออกจากห้องไม่ได้ เราเลยบอกพี่คนขับให้ฝาก พนง หน้าฟร้อนท์เอาขึ้นมาส่งให้ที่ห้อง แล้วเราก็ฝากเงินลงไป อาหารไทย รสชาติไทยๆ มื้อแรกในรอบ 2 ปี พูดเลยว่าฟินสุดดดดด


นั่งพื้นกินกันแบบบ้านๆเลยจ้าววววว สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือปริมาณ Plastic ที่ได้มา ฮืออออ

กินเสร็จประมาน 4 โมงเย็น ยังไม่ทันจะหงายท้องนอนเล่นพักผ่อนเลย พนักงานโรงแรมก็โทรมาบอกว่าได้ผล PCR แล้ว เป็นลบสามารถออกไปข้างนอกได้


แล้วในที่สุดพวกเราก็เป็นไท เฮลโหลวอิสรภาพ~


บรรยากาศหาดป่าตองช่วงตะวันตกดิน ❤️

ขอบคุณรูปสวยๆจากเจ้าโจ Danke für das schöne Bild :D

และขอบ”คุณ”ที่อ่านมาจนจบ :)


 

💸 สรุปค่าใช้จ่าย

ค่ารถไฟ Cologne-Frankfurt: 18€ /คน

ค่าเรื่องบิน ไป-กลับ Frankfurt-Phuket, Bangkok-Frankfurt: 370€ /คน

ค่าโรงแรม Burasari 15 คืน: 16,000 บาท (2 คน)

ค่า PCR test (3) ที่ภูเก็ต: 8,000 บาท /คน

ค่า Uber จากตัวเมือง Frankfurt ไปสนามบิน: 28€ (2 คน)

ค่า Taxi จากสนามบินภูเก็ตไปโรงแรมที่ป่าตอง: 640 บาท (2 คน)

ค่าอาหารมื้อแรก สั่งจาก GrabFood: 335 บาท (2 คน)



 

EP หน้าจะมารีวิวโรงแรม Burasari ที่เราอยู่ และบรรยากาศภูเก็ตในช่วง Pandemic ค่าาาา


ฝากติดตามทาง email subscription สำหรับ Blog หน้า

และ Instagram: @asciitobactoey สำหรับอัพเดทรัวๆนะคะ

ส่วนใครอยากติดตามรูปสวยๆของโจนาธาน ตามนี้เลยค่า: @jonathan_schroth


Until next time, สวัสดีค่ะ :)

718 views0 comments

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page